บันทึกการเรียนครั้งที่ 13
วันพุธ ที่ 4 เมษายน 2561
เวลา 08.30-11.30 น.
- นำเสนอคำคมเกี่ยวกับผู้บริหาร
- กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร

กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไปด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร
นักวิชาการนิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า
- ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
- ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
- ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
- ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
- การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน
- ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
- ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
- ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
- ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
- การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน
กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ
1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา
2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย
3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี
5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์
6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้
7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม
7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม
องค์ประกอบของกัลยาณมิตร
1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน
2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน
3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน+ มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน
+ ช่วยกันแก้ปัญหา + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน
+ ช่วยกันแก้ปัญหา + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน
4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน
+ ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง
+ ปราศจากอคติ
ตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรใน
โรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน
3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู
+ ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง
+ ปราศจากอคติ
กระบวนการกัลยาณมิตร
1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ
2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ
3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗
+ หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
+ พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
+ ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา
+ ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน
+ ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา
+ พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง
+ คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ
+ หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
+ พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
+ ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา
+ ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน
+ ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา
+ พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง
+ คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ
4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา
5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล
6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง
7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก
ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ
1. องค์ความรู้
2. แรงหนุนจากต้นสังกัด
3. ผู้บริหารทุกระดับ
4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา
บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ
กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน
ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ
การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
“ คลินิกครู ” มีความจำเป็นสำหรับสถานศึกษา โดยจัดช่วงเวลาที่ครูสมารถมาพบในลักษณะกลุ่มสนใจ หรือตามประเด็นปัญหาที่มีผู้นิเทศสนทนา
ให้คำแนะนำ โดยเตรียมข้อมูลเพื่อพบปะสนทนากันใน “ คลินิก ” การเข้าใช้บริการ “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อยตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรใน
โรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน
3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู
หลักประการสำคัญของกัลยาณมิตรนิเทศ คือเข้าใจวัฒนธรรมการคิดและ การทำการคิดและการทำงานของครู ผู้นิเทศย่อมตระหนักดีว่าครูทำงานหนักและ จำเจ เดิมๆ ซ้ำๆ หากมีใครสักคนเข้ามาดูงานของเขา อาจทำให้เขาเครียด เกร็ง ระมัดระวัง และรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ธรรมดา เพราะเขาคิดว่าต้องมีภาระเพิ่มขึ้น การทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดการต่อต้าน ผู้นิเทศจึงจำเป็นต้องเริ่มงานด้วยความสัมพันธ์ที่ดี ให้ครูรู้สึกไว้วางใจ พร้อมกับนำกระบวนการนิเทศสอดแทรกกลมกลืนเข้าไปกับภาระงานปกติของครู การเยี่ยมเยียน การติดต่อสื่อสารกับครูควรหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจของการตรวจสอบ หรือพิพากษาว่าใครถูก ใครผิด แต่ควรเป็นการให้กำลังใจ ใช้วิธีการพูดทางบวก มีการแลกเปลี่ยนความคิด และปรึกษาหารือให้ครูรู้จักสบายใจ
แนวทางการนิเทศ
1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง
7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส
8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ
9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ
สรุปประเด็นสำคัญ
หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศ
กระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์
ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดู
พฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและ
ปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น